VPN คืออะไร?
VPN หรือ เครือข่ายส่วนตัวเสมือน เป็นอุโมงค์ที่ปลอดภัยระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต โดย VPN ปกป้องกิจกรรมออนไลน์ของคุณจากการสอดแนม แทรกแซง และการเซ็นเซอร์
รู้จัก VPN ในไม่กี่วินาที
วิดีโอนี้มีคำบรรยายในภาษาอื่น ๆ โปรดเปลี่ยนคำบรรยายเป็นภาษาของคุณด้วยการแตะที่ไอคอนรูปเฟือง แล้วตามด้วย “คำบรรยาย/CC” เพื่อเปิดเมนูในภาษาของคุณ
VPN (Virtual Private Network หรือ เครือข่ายส่วนตัวเสมือน) คือ วิธีที่ง่ายที่สุดและมีประสิทธิภาพมากที่สุดสำหรับผู้ใช้เพื่อการปกป้องข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตของพวกเขาและซ่อนตัวตนของพวกเขาบนโลกออนไลน์ เมื่อคุณทำการเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN ที่มีความปลอดภัย การรับส่งข้อมูลบนอินเทอร์เน็ตของคุณจะเดินทางผ่านอุโมงค์เข้ารหัสที่ไม่มีใครสามารถมองเห็นภายในได้ ทั้งแฮกเกอร์ รัฐบาล และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ
ผู้บริโภคใช้ VPN เพื่อเพิ่มความเป็นส่วนตัวให้กับข้อมูลกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขา และเพื่อให้มั่นใจว่าสามารถเข้าถึงเว็บไซต์และบริการที่อาจมีการจำกัดได้
บริษัทใช้งาน VPN เพื่อติดต่อกับพนักงานที่อยู่ห่างไกลออกไป เสมือนว่าพวกเขากำลังใช้งานเครือข่ายท้องถิ่นเดียวกันของสำนักงานใหญ่ แต่สิทธิประโยชน์สำหรับผู้ใช้งานจะมีน้อยกว่า VPN ส่วนตัว
ประโยชน์และข้อได้เปรียบของ VPN
เปลี่ยนตำแหน่งของคุณ
การใช้ VPN จะเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณ ซึ่งเป็นตัวเลขเฉพาะที่ระบุถึงตัวคุณและตำแหน่งของคุณบนโลก ด้วยที่อยู่ IP ใหม่ คุณจึงสามารถท่องอินเทอร์เน็ตได้เสมือนว่าคุณอยู่ที่สหราชอาณาจักร เยอรมัน แคนาดา ญี่ปุ่น หรือประเทศเสมือนจริงใด ๆ หากบริการ VPN มีเซิร์ฟเวอร์ในประเทศเหล่านั้น
ปกป้องความเป็นส่วนตัวของคุณ
การเปลี่ยนที่อยู่ IP ของคุณด้วย VPN ช่วยปกปิดตัวตนของคุณจากเว็บไซต์ แอป และบริการที่ต้องการติดตามคุณ VPN ที่ดียังป้องกันไม่ให้ผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต ผู้ให้บริการมือถือ และใครก็ตามที่อาจแอบฟังกิจกรรมของคุณมองเห็นกิจกรรมของคุณได้ การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตต้องมีความปลอดภัย ไม่ว่าคุณจะช้อปปิ้ง ที่บาร์ หรือสวนสาธารณะ คุณจะรู้สึกปลอดภัยเมื่อใช้ Wi-Fi สาธารณะ โดยไม่ต้องใช้การจัดสรรข้อมูลที่คุณได้รับจากผู้ให้บริการมือถือ ปกป้องข้อมูลของคุณทางออนไลน์เมื่อคุณซื้อสินค้าจากที่บ้านเช่นกัน ต้องขอบคุณชั้นการเข้ารหัสที่แน่นหนา
เพิ่มความปลอดภัยของคุณ
การใช้ VPN ช่วยปกป้องคุณจากการละเมิดความปลอดภัยในหลายรูปแบบ รวมถึงการดักจับแพ็กเก็ต เครือข่าย Wi-Fi ที่หลอกลวงและการโจมตีแบบแทรกกลางการสื่อสาร นอกจากนี้ นักเดินทาง คนทำงานจากระยะไกล และบุคคลที่ต้องเดินทางทุกประเภท ยังใช้ VPN เมื่อใดก็ตามที่พวกเขาอยู่บน
เครือข่ายที่ไม่น่าเชื่อถือ เช่น Wi-Fi สาธารณะฟรี
ปลดบล็อกเว็บไซต์
หากคุณอยู่ในส่วนหนึ่งของโลกที่จำกัดการเข้าถึง Google, Wikipedia, YouTube หรือไซต์และบริการอื่น ๆ การใช้ VPN จะช่วยให้คุณสามารถเข้าถึงอินเทอร์เน็ตที่เต็มไปด้วยอิสระได้อีกครั้ง คุณยังสามารถใช้ VPN เพื่อทำลายไฟร์วอลล์ในเครือข่ายโรงเรียนหรือสำนักงานได้อีกด้วย
ฉันควรใช้ VPN เมื่อใด?
หากความเป็นส่วนตัวสำคัญสำหรับคุณ คุณควรใช้ VPN ตลอดเวลาที่คุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ต เนื่องจากแอป VPN ทำงานอยู่ในพื้นหลังของอุปกรณ์ของคุณ ดังนั้นมันจึงไม่รบกวนใด ๆ ขณะที่คุณใช้งานแอปอื่น ๆ สตรีมเนื้อหา และเรียกดูอินเทอร์เน็ต นอกจากนี้คุณจะมีความสบายใจเมื่อรับทราบว่าความเป็นส่วนตัวของคุณจะได้รับการปกป้องเสมอ
แต่สถานการณ์เหล่านี้คือตัวอย่างเมื่อเวลาที่ VPN จะมีประโยชน์เป็นพิเศษ:
ขณะเดินทางท่องเที่ยว
การออกท่องโลกไม่ได้หมายความว่าคุณจะต้องเปลี่ยนวิธีการใช้อินเทอร์เน็ตไปด้วย VPN ช่วยให้คุณใช้อินเทอร์เน็ตได้เสมือนว่าคุณกำลังอยู่ในประเทศต้นทาง ไม่ว่าคุณจะเดินทางไปไกลเพียงใดก็ตาม
ขณะใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ
การเชื่อมต่อกับฮอตสปอต Wi-Fi สาธารณะ เช่น ร้านกาแฟ สนามบิน และสวนสาธารณะ อาจทำให้ข้อมูลส่วนตัวของคุณมีช่องโหว่ การใช้ VPN บนอุปกรณ์ของคุณช่วยให้คุณปลอดภัยด้วยการเข้ารหัสที่แข็งแกร่ง
ขณะเล่นเกม
การใช้ VPN จะปลดล็อกเกม แผนที่ สกิน และส่วนเสริมอื่น ๆ ที่อาจถูกจำกัดบนเครือข่ายของคุณ นอกจากนี้ยังปกป้องคุณจากการโจมตี DDoS และลดระยะเวลารับส่งข้อมูลและความล่าช้าโดยรวม
ขณะแชร์ไฟล์
การแชร์ไฟล์ P2P มักจะหมายความว่าคนแปลกหน้าสามารถเห็นที่อยู่ IP ของคุณและอาจติดตามการดาวน์โหลดของคุณได้ VPN ช่วยให้ที่อยู่ IP ของคุณเป็นส่วนตัว ให้คุณดาวน์โหลดโดยไม่ต้องเปิดเผยตัวตนมากขึ้น
ขณะช้อปปิ้ง
ร้านค้าออนไลน์บางแห่งแสดงราคาที่แตกต่างกันไปตามตำแหน่งของผู้ใช้งานทั่วโลก ด้วย VPN คุณจึงสามารถค้นหาข้อเสนอที่ดีที่สุดในโลก ไม่ว่าคุณจะช้อปจากที่ใดก็ตาม
VPN ทำงานอย่างไร?
หากต้องการทราบว่า VPN ทำงานอย่างไร อันดับแรกควรทำความเข้าใจว่าการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณทำงานอย่างไรเมื่อไม่มี VPN
ไม่ใช้งาน VPN
เมื่อคุณเข้าถึงเว็บไซต์โดยไม่มี VPN คุณกำลังเชื่อมต่อกับเว็บไซต์ดังกล่าวผ่านผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต หรือ ISP ของคุณ โดย ISP นั้นจะมอบที่อยู่ IP เฉพาะของคุณที่สามารถใช้ระบุตัวตนของคุณบนเว็บไซต์ได้ เนื่องจาก ISP ของคุณควบคุมและนำทางข้อมูลการใช้งานทั้งหมดของคุณ มันจึงสามารถเห็นบรรดาเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมได้ และกิจกรรมของคุณสามารถถูกเชื่อมโยงเข้าหาตัวคุณได้จากที่อยู่ IP เฉพาะตัวข้างต้น
ใช้งาน VPN
เมื่อคุณเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตด้วย VPN แอป VPN บนอุปกรณ์ของคุณ (หรือที่เรียกว่า
ลูกข่าย VPN) จะสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยผ่านเซิร์ฟเวอร์ VPN ทั้งนี้ข้อมูลการใช้งานบนอินเทอร์เน็ตของคุณจะยังคงเดินทางผ่าน ISP ของคุณ แต่ ISP จะไม่สามารถอ่านหรือเห็นจุดสิ้นสุดของมันได้อีกต่อไป ในขณะเดียวกันเว็บไซต์ที่คุณเยี่ยมชมจะไม่สามารถมองเห็นที่อยู่ IP จริงของคุณอีกต่อไป นอกจากที่อยู่ IP ของเซิร์ฟเวอร์ VPN เท่านั้นซึ่งถูกแบ่งปันกับผู้ใช้รายอื่น ๆ จำนวนมาก และมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา
ไม่ได้เชื่อมต่อ
เชื่อมต่อแล้ว
รายการเหล่านี้คือ นิยามสำคัญที่เกี่ยวข้องกับ VPN ที่จะช่วยให้คุณเข้าใจว่า VPN ทำงานอย่างไร และมอบประโยชน์อย่างไรบ้าง:
การพร็อกซี
เซิร์ฟเวอร์ VPN ทำงานเสมือนหรือเป็นตัวแทนของพร็อกซีสำหรับกิจกรรมบนเว็บไซต์ของคุณ: แทนที่จะเป็นที่อยู่ IP และตำแหน่งจริงของคุณ เว็บไซต์ที่คุณเข้าชมจะเห็นเพียงที่อยู่ IP และตำแหน่งของเซิร์ฟเวอร์ VPN
นี่ทำให้คุณปิดบังตัวตนได้มากขึ้นบนอินเทอร์เน็ต
การยืนยันตัวตน
การสร้างการเชื่อมต่อที่ปลอดภัยเป็นปัญหาที่ท้าทายที่ต้องอาศัยการแก้ด้วยคณิตศาสตร์ขั้นสูง โดยผ่านขั้นตอนที่เรียกว่าการยืนยันตัว
เมื่อได้รับการยืนยันแล้ว ลูกข่าย VPN และเซิร์ฟเวอร์ VPN สามารถมั่นใจได้ว่ามีเพียงพวกมันที่กำลังสื่อสารกันอยู่เท่านั้น และไม่มีบุคคลอื่นใดอีก
การสร้างอุโมงค์
VPN ยังปกป้องการเชื่อมต่อระหว่างลูกข่ายกับเซิร์ฟเวอร์ด้วยการสร้างอุโมงค์และการเข้ารหัสอีกด้วย
การสรัางอุโมงค์เป็นขั้นตอนที่แพ็กเก็ตข้อมูลจะถูกห่อหุ้มอยู่ภายในแพ็กเก็ตข้อมูลอีกตัวหนึ่ง ซึ่งวิธีนี้จะทำให้บุคคลที่สามารถอ่านเส้นทางได้ยากยิ่งขึ้น
การเข้ารหัส
ข้อมูลภายในอุโมงค์ยังได้รับการเข้ารหัสที่มีเพียงผู้รับที่ต้องการสามารถแกะรหัสได้อีกด้วย วิธีนี้ทำให้เนื้อหาการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตของคุณถูกซ่อนเอาไว้ทั้งหมด แม้แต่จากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณก็ตาม
โปรโตคอล VPN
โปรโตคอล VPN คือ วิธีที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ VPN โปรโตคอลบางชนิดมอบความเร็วมากกว่า บางชนิดมอบความปลอดภัยมากกว่า และบางชนิดเพียงทำงานได้ดีมากกว่าภายใต้สภาพของเครือข่ายบางลักษณะเฉพาะ
VPN ส่วนใหญ่ใช้ชุดโปรโตคอลมาตรฐาน แต่ ExpressVPN สร้าง Lightway เพื่อเอาชนะทั้งหมดนั้นในด้านความเร็ว ความเสถียร และความปลอดภัย ลองทดสอบด้วยตัวคุณเอง เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ Lightway
ExpressVPN เลือกโปรโตคอลที่ดีที่สุดสำหรับเครือข่ายของคุณโดยอัตโนมัติ แต่คุณยังสามารถเลือกได้ด้วยตนเอง
โปรโตคอล VPN ยอดนิยมสำหรับการใช้งานในปัจจุบัน ได้แก่:
L2TP / IPsec *
PPTP *
SSTP*
*ไม่สามารถใช้งานได้ใน ExpressVPN
ประเภทของ VPN
VPN เชิงพาณิชย์
VPN เชิงพาณิชย์ หรือที่เรียกว่า VPN ส่วนบุคคล หรือ VPN สำหรับผู้บริโภค เป็นบริการส่วนตัวที่นำเสนอให้แก่ผู้ใช้แต่ละรายโดยตรง ซึ่งมักจะมีค่าธรรมเนียม
ExpressVPN เป็นบริการ VPN เนื่องจากตอบสนองความต้องการความเป็นส่วนตัวของลูกค้าโดยตรง
VPN เชิงธุรกิจ
VPN สำหรับองค์กรหรือที่เรียกว่า VPN สำหรับธุรกิจ ช่วยให้พนักงานจากระยะไกลขององค์กรสามารถเชื่อมต่อกับอินเทอร์เน็ตได้อย่างปลอดภัยราวกับว่าพวกเขาอยู่ในสำนักงาน
อย่างไรก็ตามความแตกต่างจาก VPN เชิงพาณิชย์ ก็คือ VPN ขององค์กรมีไว้เพื่อปกป้องความเป็นส่วนตัวของบริษัทและไม่จำเป็นครอบคลุมถึงบุคคล
VPN แบบตั้งค่าด้วยตนเอง
ผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีและผู้ที่ชื่นชอบการทำอะไรด้วยตนเองบางคนเลือกที่จะตั้งค่า VPN ของตนเองโดยใช้อุปกรณ์ของพวกเขาเอง
อย่างไรก็ตาม VPN ที่ตั้งค่าด้วยตนเองไม่ได้ให้การป้องกันที่อยู่ IP ที่ใช้ร่วมกัน ซึ่งการมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ในหลากหลายประเทศ หรือคุณสมบัติ
อื่น ๆ มากมายเป็นที่โปรดปรานของผู้ใช้งาน VPN
เชิงพาณิชย์
ทางเลือกอื่นนอกจาก VPN
VPN ไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือเดียวเท่านั้นที่สามารถเพิ่มความเป็นส่วนตัว ความปลอดภัย
หรืออิสระบนโลกออนไลน์
Tor
Tor (คำย่อสำหรับ The Onion Router) คือ เครือข่ายอิสระของเซิร์ฟเวอร์ หรือ "โหนด" ที่กำหนดเส้นทางการรับส่งข้อมูลทางอินเทอร์เน็ตแบบสุ่มระหว่างกันและกัน เพื่อเกิดความสับสันในข้อมูลดั้งเดิม
การใช้ Tor สามารถเพิ่มการปิดบังตัวตนของคุณได้อย่างมาก และการใช้ Tor ร่วมกับ VPN จะยิ่งช่วยเพิ่มโอกาสในการปกป้องการสอดส่องได้มากที่สุด
อย่างไรก็ตามข้อเสียหลักของ Tor ก็คือ ความเร็ว เพราะการใช้งานอินเทอร์เน็ตของคุณขึ้นอยู่กับการกระโดดไปมาหลายแห่ง คุณจึงอาจพบว่าไม่สะดวกที่จะสตรีม ดาวน์โหลด หรือแชร์ไฟล์กับ Tor
บริการพร็อกซี
พร็อกซีเซิร์ฟเวอร์ คือ ตัวกลางใด ๆ ระหว่างอุปกรณ์ของคุณกับอินเทอร์เน็ต อย่างไรก็ตาม "บริการพร็อกซี" ส่วนใหญ่ค่อนข้างช้าและไม่ได้มอบประโยชน์ด้านความเป็นส่วนตัวหรือความปลอดภัยใด ๆ ซึ่งแตกต่างจาก VPN
สิ่งที่เรียกว่า "บริการพร็อกซีฟรี" ยังเป็นอันตรายอย่างมากอีกด้วย เพราะหลายแห่งมักหาหนทางที่จะสร้างรายได้จากข้อมูลของคุณ เช่น การขายมันให้กับบุคคลที่สาม
ทั้ง Tor และบริการพร็อกซีต่างไม่สามารถทดแทนคุณประโยชน์ของ VPN ได้เลย ทั้งนี้ VPN ที่น่าเชื่อถือยังคงเป็นทางเลือกด้านความเป็นส่วนตัวที่ดีที่สุดสำหรับคนส่วนใหญ่
ดาวน์โหลด ExpressVPN บนอุปกรณ์ทั้งหมดของคุณ
การสมัครสมาชิก ExpressVPN บัญชีเดียวให้คุณดาวน์โหลด VPN สำหรับทุกแพลตฟอร์มยอดนิยม ต้องการ VPN สำหรับอุปกรณ์หลายเครื่อง? ตั้งค่า ExpressVPN ในทุกเครื่องที่คุณเป็นเจ้าของและใช้งานบนแปดอุปกรณ์ในเวลาเดียวกัน
พร้อมส่วนขยาย VPN สำหรับเบราว์เซอร์ที่คุณชื่นชอบ
คำถามที่พบบ่อย
ฉันจะเลือก VPN อย่างไร?
คุณสมบัติที่สำคัญที่สุดในการพิจารณาเมื่อทำการเลือกบริการ VPN ก็คือ ความน่าเชื่อถือ โดยผู้ให้บริการ VPN ที่ไว้วางใจได้:
มีความโปร่งใสในนโยบายความเป็นส่วนตัว
ได้รับการตรวจสอบอย่างอิสระ
ออกแบบระบบเพื่อหลีกเลี่ยงการเก็บข้อมูลส่วนตัว
แสดงพันธะความเป็นส่วนตัวบนโลกอินเทอร์เน็ตและอิสระด้านดิจิทัลอยู่เสมอ
ถัดจากเรื่องความน่าเชื่อถือแล้ว เลือก VPN ของคุณจากคุณสมบัติที่คุณต้องการ เช่น ตำแหน่งหลากหลาย ความสามารถในการใช้งานกับทุกอุปกรณ์ที่คุณเป็นเจ้าของ และแบนด์วิดท์ที่ไม่จำกัด
เหตุใดฉันจึงควรจ่ายเงินสำหรับ VPN?
ยากที่จะหา VPN แบบฟรีที่จะเทียบเท่าด้านคุณสมบัติและคุณภาพการบริการของผู้ให้บริการแบบมีค่าธรรมเนียม ทั้งนี้ VPN ฟรีมักมอบประสบการณ์ที่ด้อยมาตรฐาน ด้วยการเชื่อมต่อที่แออัดจากผู้ใช้งานจำนวนมาก ไม่มีฝ่ายบริการลูกค้า ความปลอดภัยที่จำกัดหรือล่าช้า และมีตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN ให้เลือกน้อยกว่า
ในฐานะผู้ให้บริการแบบชำระเงินระดับพรีเมียม ExpressVPN สามารถนำเสนอการเชื่อมต่อที่ปรับให้เหมาะสมสำหรับความเร็ว ความปลอดภัย และความเสถียร รวมถึงตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่มีให้เลือกมากมายใน 105 ประเทศทั่วโลก นอกจากนี้ ทีมสนับสนุนเฉพาะของเราพร้อมให้บริการทุกวันตลอด 24 ชั่วโมงเพื่อช่วยเหลือ
VPN ถูกกฎหมายหรือไม่?
VPN เป็นสิ่งถูกกฎหมาย และถูกใช้งานโดยบุคคลทั่วไปหรือบริษัททั่วโลกเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวและกิจกรรมออนไลน์ของพวกเขา รวมถึงในประเทศที่มีรัฐบาลเข้มงวดอย่างสูง แมัแต่ในบางแห่งที่ VPN ดูเหมือนถูกปราม รัฐบาลหลายประเทศให้การรับรองการใช้โดยเจ้าหน้าที่ นักวิชาการ หรือผู้นำทางธุรกิจตามความจำเป็นเพื่อให้สามารถแข่งขันได้ในโลกที่เชื่อมต่อกัน เพราะมันไม่เป็นประโยชน์สำหรับประเทศต่าง ๆ ที่จะแบน VPN ทั้งหมด
นั่นหมายความว่า กิจกรรมออนไลน์ที่ผิดกฎหมายยังคงผิดกฎหมายอยู่ ไม่ว่าคุณจะกำลังใช้งาน VPN หรือไม่ก็ตาม
ฉันสามารถใช้ VPN บนมือถือได้หรือไม่? แล้วเหตุใดฉันถึงต้องการเช่นนั้น?
ด้วยแอปสำหรับ iOS และ Andriod ExpressVPN นั้นใช้งานบนอุปกรณ์เคลื่อนที่ได้อย่างง่ายดาย เนื่องจากกิจกรรมทางดิจิทัลที่มีเพิ่มมากขึ้น—ดังเช่น การธนาคาร การสตรีม และการส่งข้อความ—เกิดขึ้นบนโทรศัพท์และแท็บเล็ตของคุณ มันจึงกลายเป็นเรื่องสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ ในการปกป้องข้อมูลของพวกเราด้วย VPN บนอุปกรณ์เหล่านี้ โดยเฉพาะเมื่อใช้งาน Wi-Fi สาธารณะ
VPN จะทำให้อินเทอร์เน็ตของฉันช้าลงหรือไม่?
VPN ทั้งหมดล้วนมีโอกาสที่จะทำให้การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตของคุณช้าลง แต่ความเร็วระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรมของ ExpressVPN หมายความว่า ผู้ใช้งานแทบจะไม่สังเกตเห็นถึงความแตกต่าง แท้จริงแล้ว VPN อาจจะยกระดับการเชื่อมต่อของคุณได้อีกด้วย หากผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณกำลังควบคุมปริมาณการใช้งานของคุณอยู่
อย่างไรก็ตาม หากคุณสังเกตเห็นว่าการเชื่อมต่อของคุณช้าลง โปรดทำให้มั่นใจว่าคุณได้เลือกตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ที่อยู่ใกล้คุณมากที่สุด
VPN ทำให้เปลืองแบตเตอรี่หรือไม่?
เช่นเดียวกับทุกแอป VPN ย่อมใช้พลังงานส่วนหนึ่งบนอุปกรณ์ของคุณ นั่นเป็นหนึ่งเหตุผลที่ ExpressVPN พัฒนา Lightway ซึ่งเป็นโปรโตคอล VPN ที่สร้างขึ้นมาใหม่โดยเฉพาะและมีความพิเศษที่สุดของเรา โดยโปรโตคอลนี้ได้รับการออกแบบให้ใช้งานแบตเตอรี่น้อยเป็นพิเศษกว่าโปรโตคอลอื่น ๆ นอกจากนี้มันยังสามารถรับการตรวจสอบและบำรุงรักษาได้เร็วกว่าและง่ายยิ่งกว่าด้วย
คุณจะสามารถถูกติดตามได้หรือไม่หากคุณใช้ VPN?
ExpressVPN เชื่อมั่นว่า ทุกคนมีสิทธิ์ในเรื่องความเป็นส่วนตัว เมื่อคุณเชื่อมต่อกับเครือข่ายของเรา การเข้ารหัสอันแข็งแกร่งจะปกป้องกิจกรรมของคุณจากการจับตามองโดยผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตของคุณ ผู้ควบคุม Wi-Fi หรือบุคคลที่สามอื่น ๆ ExpressVPN ไม่มีการเก็บบันทึกกิจกรรมหรือการเชื่อมต่อใด ๆ นอกจากนี้เทคโนโลยี TrustedServer อันล้ำสมัยของเรายังช่วยทำให้มั่นใจว่า จะไม่มีข้อมูลใดที่จะถูกจัดเก็บไว้ในเซิร์ฟเวอร์ พูดง่าย ๆ ก็คือ จะไม่มีกิจกรรมเครือข่ายใดหรือพฤติกรรมใดที่จะสามารถถูกติดตามกลับมายังผู้ใช้งาน ExpressVPN
การใช้งาน VPN ปลอดภัยสำหรับการธนาคารออนไลน์หรือไม่?
การใช้งาน VPN ไม่เพียงแต่ปลอดภัยเท่านั้น มันยังช่วยเพิ่มชั้นความปลอดภัยอันทรงพลังสำหรับการธนาคารออนไลน์ของคุณอีกด้วย โดยเฉพาะบนเครือข่าย Wi-Fi สาธารณะ เนื่องจากว่าบางสถาบันการเงินอาจจะสกัดกั้นการเข้าถึงของผู้ใช้งานที่ดูเหมือนจะอยู่ในสถานที่ที่ไม่น่าเป็นไปได้ ดังนั้นการเชื่อมต่อกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ในประเทศบ้านของคุณก่อนที่คุณจะลงชื่อเข้าใช้ธนาคารหรือ PayPal ของคุณ จึงสามารถช่วยให้คุณปลอดภัยจากการถูกตัดการเชื่อมต่อได้
ฉันควรเปิด VPN อยู่ตลอดเวลาหรือไม่?
เราแนะนำให้คุณเปิดใช้งาน ExpressVPN อยู่ตลอดเวลาที่อุปกรณ์ของคุณเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต แม้ว่าคุณจะไม่ได้ใช้งานมันอยู่ตลอดเวลาก็ตาม ด้วยการเปิดให้แอปทำงานอยู่เบื้องหลัง คุณจะสบายใจเมื่อรู้ได้ว่า ความเป็นส่วนตัวของคุณนั้นได้รับการปกป้องอยู่เสมอ
ฉันจะรับและใช้งาน VPN ได้อย่างไร?
ขั้นตอนที่ 1
สมัครสมาชิก ExpressVPN
ไปยังหน้าสั่งซื้อ และเลือกรายการที่เหมาะสำหรับคุณ แผนทั้งหมดของเราได้รับการคุ้มครองโดยการรับประกันคืนเงินภายใน 30 วันของเราอย่าง
เต็มรูปแบบ
ขั้นตอนที่ 2
ดาวน์โหลดแอป VPN
คุณจะได้รับคำเชิญให้ดาวน์โหลดแอปสำหรับอุปกรณ์ที่คุณกำลังใช้งานอยู่ทันที และการรับแอปสำหรับอุปกรณ์อื่น ๆ ทั้งหมดของคุณนั้นง่ายดายเช่นเดียวกัน
ขั้นตอนที่ 3
เชื่อมต่อกับตำแหน่งเซิร์ฟเวอร์ VPN
เพียงกดปุ่มเปิด คุณจะได้รับการเชื่อมต่อกับตำแหน่งที่ดีที่สุดสำหรับการเชื่อมต่อของคุณทันที หรือเลือกหนึ่งแห่งจากเครือข่ายทั่วโลกของเรา
ทำไมต้อง ExpressVPN?
เรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ VPN
ไม่เก็บบันทึกกิจกรรม
ExpressVPN ไม่เห็นหรือบันทึกว่าคุณเยี่ยมชมเว็บไซต์ใด
เข้ารหัสข้อมูลของคุณ
การเข้ารหัสที่แข็งแกร่งช่วยปกป้องข้อมูลและการสื่อสารของคุณ
ปลดบล็อกเว็บไซต์
เข้าถึงบริการบนเว็บที่คุณชื่นชอบและกำจัดการเซ็นเซอร์